เมนู

4. สังขชาดก



ว่าด้วยอานิสงส์ถวายรองเท้า



[1357] ข้าแต่ท่านสังขพราหมณ์ ท่านก็เป็น
พหูสูต ได้ฟังธรรมมาแล้ว ทั้งสมณพราหมณ์
ทั้งหลาย ท่านก็ได้เห็นมาแล้ว เหตุไรท่านจึง
แสดงคำพร่ำเพ้อในขณะอันไม่สมควร คนอื่น
นอกจากข้าพเจ้า ใครเล่าที่จะมาเจรจากับท่าน
ได้.
[1358] นางฟ้าหน้างาม รูปสวยเลิศ ประดับด้วย
เครื่องประดับทอง ยกถาดทองเต็มด้วยอาหาร
ทิพย์ มาร้องเชิญให้เราบริโภค นางเป็นผู้มี
ศรัทธาและปลื้มจิต เราตอบกะนางว่า ไม่
บริโภค.
[1359] ข้าแต่ท่านสังขพราหมณ์ วิสัยบุรุษผู้ยัง
ปรารถนาความสุข ได้พบเห็นเทวดาเช่นนี้แล้ว
ควรจะถามดูให้รู้แน่ ขอท่านจงลุกขึ้นประนม
มือถามเทวดานั้นว่า นางเป็นเทวดาหรือมนุษย์.

[1360] เพราะเหตุที่ท่านมาแลดูข้าพเจ้าด้วยสาย-
ตาอันแสดงความรัก ร้องเชิญให้ข้าพเจ้าบริโภค
อาหาร ดูก่อนนางผู้มีอานุภาพใหญ่ ข้าพเจ้า
ขอถามท่านว่า ท่านเป็นเทวดาหรือมนุษย์ ?
[1361] ข้าแต่ท่านสังขพราหมณ์ ข้าพเจ้าเป็น
เทวดาผู้มีอานุภาพมาก มาในกลางน้ำสาครนี้ ก็
เพราะเป็นผู้มีความเอ็นดู จะได้มีจิตประทุษร้าย
หาไม่ ข้าพเจ้ามาในที่นี้ ก็เพื่อประโยชน์แก่
ท่านนั่นเอง.
[1362] ข้าแต่ท่านสังขพราหมณ์ ในสมุทรนี้มี
ข้าว น้ำ ที่นอน ที่นั่ง และยานพาหนะมากอย่าง
ใจของท่านปรารถนาสิ่งใด ข้าพเจ้าจะให้สิ่งนั้น
สำเร็จแก่ท่านทุกอย่าง.
[1363] ข้าแต่เทพธิดาผู้มีร่างงาม มีตะโพกผึ่งผาย
มีคิ้วงาม ผู้เอวบางร่างน้อย ทานซึ่งเป็นส่วน
บูชา และการเซ่นสรวงของข้าพเจ้า อย่างใด
อย่างหนึ่งซึ่งมีอยู่ ท่านเป็นผู้สามารถรู้วิบาก

แห่งกรรมของข้าพเจ้าทุกอย่าง การที่ข้าพเจ้า
ได้ที่พึ่งในสมุทรนี้ เป็นวิบากแห่งกรรมอะไร.
[1364] ข้าแต่ท่านสังขพราหมณ์ ท่านได้ถวาย
รองเท้ากะพระภิกษุรูปหนึ่ง ผู้เดินกระโหย่งเท้า
สะดุ้ง ลำบากอยู่ในหนทางอันร้อน ทักษิณา
นั้นอำนวยผลสิ่งน่าปรารถนาแก่ท่านในวันนี้.
[1365] ขอจงมีเรือที่ต่อด้วยแผ่นกระดาน น้ำ
ไม่รั่ว มีใบสำหรับพาเรือให้แล่นไป เพราะใน
สมุทรนี้ พื้นที่ที่จะใช้ยานพาหนะอย่างอื่นมิได้
มี ขอท่านได้ส่งข้าพเจ้าให้ถึงเมืองโมลินี ใน
วันนี้เถิด.
[1366] นางเทพธิดานั้น มีจิตชื่นชมโสมนัส
ปราโมทย์ เนรมิตเรืออันงามวิจิตร แล้วพา
สังขพราหมณ์กับบุรุษคนใช้มาส่งถึงเมือง อัน
เป็นที่สำราญรื่นรมย์.

จบ สังขชาดกที่ 4

อรรถกถาสังขพราหณชาดกที่ 4



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
ถวายบริขารทั้งปวง จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า พหุสฺสุโต ดังนี้.
ได้ยินว่า ในพระนครสาวัตถี มีอุบาสกคนหนึ่ง ฟังธรรม
เทศนาของพระตถาคตแล้ว มึจิตเลื่อมใสในพระศาสดา จึงเข้าไปนิมนต์
เพื่อฉันในวันรุ่งขึ้น แล้วให้ทำมณฑปใกล้ประตูเรือนของตน ประดับ
ตกแต่งเป็นอย่างดี วันรุ่งขึ้นให้คนไปกราบทูลภัตกาลต่อพระตถาคต
พระศาสดามีภิกษุ 500 เป็นบริวาร เสด็จไป ณ ที่นั้น ประทับนั่งบน
บวรพุทธาอาสน์ที่อุบาสกปูลาดไว้ อุบาสกพร้อมด้วยบุตรภรรยาและ
บริวารชน ถวายมหาทานแด่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ได้
นิมนต์ฉันถวายมหาทานอย่างนี้ต่อไปถึง 7 วัน ในเว้นที่ 7 ได้ถวาย
เครื่องบริขารทุกอย่าง แลเมื่อจะถวายนั้น ใดจัดทำรองเท้าถวายเป็น
พิเศษ คือคู่ที่ถวายแด่พระทศพล ราคาพันหนึ่ง ที่ถวายพระอัครสาวก
ทั้งสอง ราคาคู่ละ 500 ที่ถวายพระภิกษุ 500 นอกนั้น ราคาคู่ละ
ร้อย. อุบาสกนั้นครั้นถวายเครื่องบริขารทุกอย่าง ดังนี้แล้ว ได้ไปนั่ง
อยู่ในสำนักพระผู้มีพระภาคกับบริษัทของตน.
ครั้งนั้น พระศาสดาเมื่อจะทรงอนุโมทนาด้วยพระสุรเสียงอัน
ไพเราะแก่อุบาสกนั้น ได้ตรัสว่า นี่แน่ะอุบาสก การ ๆ ถวายเครื่องบริขาร
ทุกอย่างของท่าน โอฬารยิ่ง ท่านจงชื่นชมเถิด ครั้งก่อนเมื่อพระพุทธ-